สรุปแล้ว ภาพยนตร์ โคดา CODA ซึ่งเป็น เรื่องราวของเด็กที่พ่อแม่เป็นคนหูหนวก สร้างประวัติศาสตร์ คว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ของผู้กำกับ ฟิลลิปเป้ รูสเซเล็ต คว้ารางวัลจากเวที ออสการ์ 2022 Oscar 2022 ไปทั้งสิ้น 3 รางวัล ได้แก่ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Picture) , นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม (Best Supporting Actor) และ บทภาพยนตร์ประยุกต์ยอดเยี่ยม (Best Adapted Screenplay)
.
สำหรับ โคดา CODA ถือ เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกจากระบบสตรีมมิง ที่ได้ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมออสการ์ โดย โคดา CODA เป็นออริจินัลของ Apple TV+
.
ขณะที่ ภาพยนตร์ Dune ของผู้กำกับ เดนิส วิลล์เนิฟ Denis Villeneuve คว้าจำนวนออสการ์ 2022 Oscar 2022 มาได้มากที่สุดถึง 6 รางวัล , ส่วน ภาพยนตร์ The Eyes of Tammy Faye ได้ไป 2 รางวัล
.
• เหตุการณ์ไวรัล วิลล์ สมิธ ตบหน้า คริส ร็อก เหตุล้อภรรยา
.
ขณะที่ เหตุการณ์ที่กลายเป็นไวรัลต่างประเทศ ไปอย่างรวดเร็ว ในเวทีออสการ์ 2022 Oscar 2022 และมีคนพูดถึงเป็นอย่างมากนั่นคือเหตุการณ์ เหตุไม่คาดฝันในเวทีออสการ์ 2022 ที่้จัดขึ้นที่ โรงละครดอลบี นครลอสแองเจลิส และเป็นการประกาศรางวัลครั้งที่ 94 โดย วิลล์ สมิธ นักแสดง วัย 53 ปี เดินขึ้นไป ตบหน้า คริส ร็อก บนเวทีออสการ์ หลังเล่นมุกตลกใส่ภรรยา จาด้า พินเก็ตต์ สมิธ Jada Pinkett Smith ของเขา
วิลล์ สมิธ เดินขึ้นไปบนเวทีแล้ว ตบหน้าที่ไป คริส ร็อก ซึ่งนั่นสร้างความตกตะลึงให้กับคนในงานเป็นอย่างมาก หลังจากนั้น คริส ร็อก ก็พยายามแก้สถานการณ์บนเวทีที่เต็มไปด้วยบรรยากาศมาคุ ด้วยการพูดว่า "ว้าว วิล สมิธ เพิ่งตบหน้าผมไป..."
.
ในตอนแรก ทั้งในงานมีท่าทีว่านี้อาจจะเป็นมุกตลก แต่สุดท้ายแล้ว สำหรับ วิลล์ สมิธ นักแสดงวัย 53 ปี กลับมานั่งแล้ว สบถคำหยาบออกมาอีก นั่นทำให้ทุกฝ่าย ตีความแล้วว่า นี่คือเรื่องที่ขัดแย้งกันจริงๆ และเป็นเหตุที่ไม่คาดฝันในเวทีออสการ์ 2022 เพราะเหตุผลก็คือ จาด้า (Jada Pinkett Smith ภรรยาของวิลล์ สมิธ) นั้นมี ผมร่วง เพราะป่วยเป็นโรค Alopecia และต้องโกนศีรษะ เหมือนตัวละคร G.I. Jane
.
ภายหลัง วิลล์ สมิธ ได้กลับลงไปนั่งที่โต๊ะของเขาพร้อมตะโกนบอกคริส ร็อค ให้หยุดพูดจาแย่ๆ กับภรรยาของเขา (เวอร์ชันจริงเป็นคำที่หยาบคายกว่า โดยใช้คำว่า "Leave my wife’s name out of your f--king mouth") นั่นเอง
Credit : Guardian News
สรุปรางวัลออสการ์ 2022 CODA ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม - ช็อต วิลล์ สมิธ ตบหน้าคริส ร็อก - SpringNews
Read More
No comments:
Post a Comment