• ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช (2550 – 2558)
ภาพยนตร์ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เป็นภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์ กำกับการแสดงโดย หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล มี 6 ภาค และมี สรพงศ์ ชาตรี อยู่ร่วมด้วยทุกภาคในบทบาทของ พระมหาเถรคันฉ่อง อาจารย์ของ "องค์ดำ" แน่นอนว่า ภาพยนตร์เซ็ตนี้ทั้ง 6 ภาค สรพงศ์ ชาตรี ไม่ได้เป็นนักแสดงนำ แต่เขาก็ถือเป็นอีกคนสำคัญที่โครงเรื่องหลัก , แม้บทพูดจะมีน้อย แต่สีหน้า แววตา ในการปรากฏตัวแต่ละฉาก สามารถเปล่งรัศมีของสุดยอดการแสดงออกมาตลอดเวลา
ในแง่ของศิลปะภาพยนตร์ที่กลมกล่อม ทั้งบันเทิงและมีความละเอียดละเมียดละไมนั้น คงต้องยกให้กับภาค 2 ประกาศอิสรภาพ และภาคที่ 4 ศึกนันทบุเรง ที่เต็มไปด้วยรสแห่งศิลปะ ชวนให้ผู้ชมเดินตามเรื่องไปยังจุดพีคของเรื่องในตอนจบภาคได้เป็นอย่างดี สำหรับ ภาพยนตร์เซ็ตนี้ทั้ง 6 ภาค ถือเป็นช่วงท้ายๆที่ สรพงศ์ ชาตรี ในประวัติ รับงานแสดง โดยภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายในช่วงปี 2550 – 2558
• สุริโยไท (2544)
ภาพยนตร์ สุริโยไท ในช่วงปีพ.ศ 2544 นับเป็นปรากฏการณ์ของประเทศ , หากย้อนไปในเวลานั้น โปรเจ็คหนังฟอร์มยักษ์เรื่องนี้ แม้จะออกฉายในปี 2001 แต่ก็ขนนักแสดงชั้นนำของประเทศจากยุค 1980s และ 1990s มาอย่างคับคั่ง ซึ่งหนึ่งในนี้รวมถึงนักแสดงคุณภาพคับแก้วอย่าง สรพงศ์ ชาตรี ที่มารับบทบาทเป็น ตัวละครสุดเท่ มีคาเร็กเตอร์โดดเด่นอย่างตัวละคร หมื่นราชเสน่หา (นอกราชการ) ที่เปรียบเสมือน นายทหารองครักษ์ของ พระสุริโยไท ซึ่งเป็นตัวละครนำของเรื่อง
หนัง สุริโยไท เป็นเหมือนกับการรวบรวมคอลเล็กชั่นนักแสดงฝีมือแถวหน้าของประเทศเอาไว้ในเวลานั้น ไม่ว่าจะเป็น ศรัณยู วงษ์กระจ่าง ในบทสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ, ฉัตรชัย เปล่งพานิช ในบทสมเด็จพระมหาธรรมราชา, พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง ในบทพระไชยราชา, จอนนี่ แอนโฟเน่ ในบทขุนวรวงศา, ใหม่ เจริญปุระ ในบทท้าวศรีสุดาจันทร์ และเมื่อหมดรอบฉาย ภาพยนตร์ สุริโยไททำรายได้ไปกว่า 600 ล้านบาททั่วประเทศ ซึ่งในตอนนั้น ไม่เคยมีภาพยนตร์ไทยเรื่องไหน ทำรายได้สูงขนาดนั้น
• เทพธิดาโรงแรม (2517)
.
ภาพยนตร์เทพธิดาโรงแรมนับเป็นอีกหนึ่งผลงานในสไตล์ดราม่า ที่มี สรพงศ์ ชาตรี ร่วมอยู่ด้วย โดยเป็นหนังที่แหวกขนบของวงการภาพยนตร์ไทย, โดยต้องเท้าความก่อนว่า ปี พ.ศ. 2516 ได้เกิดเหตุการณ์ทางการเมืองครั้งสำคัญ คือ 14 ตุลาคม 2516 ซึ่งทหารเข้าปราบปรามนักศึกษาและประชาชนที่ออกมารวมตัวกันประท้วงรัฐบาลเผด็จการจอมพลถนอม กิตติขจร และนำไปสู่การโค่นล้มรัฐบาลเผด็จการทหาร ซึ่งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การเมืองไทยที่มีการเรียกร้องประชาธิปไตยจนสำเร็จ
หลังจากนั้นไม่นาน ภาพยนตร์ เทพธิดาโรงแรม (หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล กำกับ) โดยมีความแตกต่างทั้งเนื้อหาและรูปแบบการนำเสนอจากภาพยนตร์ไทยในยุคเดียวกัน โดยหนังเรื่องนี้ เล่าเรื่องของมาลี (แสดงโดย วิยะดา อุมารินทร์) หญิงสาวจากเมืองเหนือที่ถูกชายหนุ่มล่อลวงมาขายบริการทางเพศในกรุงเทพ ตอนแรกเธอก็ปฏิเสธและขัดขืน แต่แล้วสุดท้ายเธอก็เรียนรู้ว่ายิ่งขัดขืนเธอก็ยิ่งถูกซ้อมอย่างทารุณ เธอจึงจำใจรับสภาพการเป็น “เทพธิดาโรงแรม”
ภาพยนตร์ ชักชวนให้คนดูตั้งคำถามกับชะตาชีวิตของตัวละครในเรื่อง ไม่ว่าการตัดต่อภาพมาลี กำลังขายตัวให้ลูกค้าสลับกับครอบครัวเธอกำลังทำบ้านใหม่ จนไปถึงการตัดสลับภาพมาลีกำลังถูกซ้อมกับภาพประชาชนรวมตัวประท้วง หนังเทพธิดาโรงแรมจะจบลงด้วยภาพแห่งความหวังของมนุษย์ตัวเล็กๆในสังคม , ส่วน สรพงศ์ ชาตรี ในเรื่องนี้ รับบทเป็น โทน ตัวร้ายของเรื่อง ซึ่งทำงานเป็นคุมสถานบริการทางเพศ
• มือปืน (2526)
คงต้องยอมรับว่า ภาพยนตร์ มือปืน เป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ไทยที่ฉีกขนบในช่วงเวลานั้น เพราะ หนังเรื่องนี้เล่าเรื่องคนตัวเล็กๆ ชีวิตของคนเล็กๆอย่าง อาชีพเป็นมือปืนในแง่มุมที่ผู้ชมในยุคนั้นอาจไม่เคยได้เห็น
โดย สรพงศ์ ชาตรี รับบทเป็น “จ่าสมหมาย ม่วงทรัพย์” มือปืนรับจ้างขาเป๋ ที่เคยเป็นนายทหารที่ร่วมรบในสมรภูมิที่ลาวจนเสียขาไปข้างหนึ่ง จนต้องมามีอาชีพเป็นมือปืนรับจ้างคอยฆ่าคนและมีอาชีพเป็นช่างตัดผมบังหน้า แน่นอนว่า การใช้ตัวละครที่มีความไม่สมบูรณ์แบบนี้ น่าจะเป็นแนวคิดที่ "Anti-hero" ที่ตัวเอกของเรื่อง ไม่จำเป็นต้องหล่อ เท่ หรือเพอร์เฟ็กต์ใดๆ โดย ภาพยนตร์ มือปืน เลือกที่จะเล่าถึงชีวิตของมือปืน ที่มักเป็นตัวร้ายในภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ แต่ในหนังเรื่องนี้ อธิบายชีวิต จ่าสมหมาย ที่แสดงโดยสรพงศ์ ชาตรี คือคนตัวเล็กๆ คนหนึ่งในสังคมที่ต้องต่อสู้ดิ้นรนกับโชคชะตาและความอยุติธรรมที่ได้รับ
สำหรับ สรพงศ์ ชาตรี ได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมถึง 2 รางวัลด้วยกันคือรางวัลตุ๊กตาทองและรางวัลสุพรรณหงส์ทองคำ จากภาพยนตร์ มือปืน เรื่องนี้ด้วย
Credit : Youtube : Sahamongkolfilm International Co.,Ltd
สรพงศ์ ชาตรี กับ สุดยอด 5 ภาพยนตร์ชั้นดี คุณภาพคับจอ ฝากฝีมือการแสดงไว้ - SpringNews
Read More
No comments:
Post a Comment